ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
บ๊อช ประเทศไทย
ผลประกอบการปี 2566

บ๊อช รักษาอัตราการเติบโตด้วยตัวเลขสองหลักในประเทศไทย

นวัตกรรมที่ทรงประสิทธิภาพพร้อมความมุ่งมั่นอันแรงกล้าในการขับเคลื่อนความยั่งยืน

  • โซลูชันการขับเคลื่อนแบบองค์รวม: แนวทางที่เป็นนวัตกรรมของบ๊อชครอบคลุมโซลูชันที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ระบบอัตโนมัติ โซลูชันที่ออกแบบเฉพาะ และโซลูชันการเชื่อมต่อถึงกัน สู่การปฏิวัติการขนส่งและอื่น ๆ อีกมากมาย
  • เพิ่มศักยภาพให้กับภาคอุตสาหกรรม: ตั้งแต่ยานยนต์ไปจนถึงอุตสาหกรรมการผลิต บ๊อชนำเสนอโซลูชันล้ำสมัยที่ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการที่หลากหลายของทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและผลักดันนวัตกรรมไปทั่วประเทศ
  • ความมุ่งมั่นของบ๊อชต่อความยั่งยืน ส่งเสริมอนาคตประเทศไทยสู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

กรุงเทพฯ ประเทศไทย – บ๊อช ผู้จัดจำหน่ายและบริการด้านเทคโนโลยีชั้นนำของโลก สร้างสถิติการเติบโตของยอดขายในประเทศไทยที่ 459 ล้านยูโร (17.3 พันล้านบาท) ในปี พ.ศ. 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ15.8 จากปี พ.ศ. 2565 “ในปี พ.ศ. 2566 บ๊อช ประเทศไทย ประสบความสำเร็จในการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยได้รับแรงหนุนจากความมุ่งมั่นของเราในการกำหนดอนาคตการขับเคลื่อนที่ยั่งยืน วิสัยทัศน์ของเราข้ามไปไกลกว่าเทคโนโลยียานยนต์ โดยครอบคลุมถึงโซลูชันการใช้พลังงานไฟฟ้า ระบบอัตโนมัติ โซลูชันที่ออกแบบเฉพาะ และโซลูชันการเชื่อมต่อถึงกัน ด้วยความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม บ๊อช พร้อมที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งมอบคุณค่าพร้อมทั้งสนับสนุนอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” โจเซฟ ฮง กรรมการผู้จัดการ บ๊อช ประเทศไทย กล่าว

Joseph Hong

การก่อร่างธุรกิจยานยนต์ยุคใหม่ในประเทศไทย

ในปี พ.ศ. 2566 ถือเป็นปีที่โดดเด่นสำหรับธุรกิจด้านยานยนต์ในประเทศไทย ความพยายามในการลดคาร์บอนรวมถึงนโยบายจากรัฐบาล กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการคมนาคมขนส่ง ที่ต้องการรูปแบบการขนส่งที่มีความยั่งยืนเพิ่มมากขึ้น เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EVs) ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

Electric vehicle

โซลูชันการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ระบบอัตโนมัติ โซลูชันที่ออกแบบเฉพาะ และ

โซลูชันการเชื่อมต่อถึงกัน

ระบบเบรกแบบรีเจนเนอเรทีฟ (Regenerative braking systems) ของบ๊อช นำเสนอระบบเบรกแบบชาร์จไฟจากพลังงานจลน์ และทำให้การเบรกนั้นปราศจากการปล่อยมลพิษ ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองในรถยนต์ไฮบริดและเพิ่มระยะการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้า iBooster เป็นหม้อลมเบรกระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบสุญญากาศ ช่วยลดระยะเบรกและทำให้รถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับ ESP® hev ระบบโมดูลาร์ที่ปรับแต่งเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งช่วยให้ iBooster หม้อลมเบรกฟื้นคืนพลังงานจากการเบรก โดยมีค่าการชะลอตัวสูงสุดถึง 0.3 กรัม นับเป็นระบบที่ควบรวมการเบรคอย่างมีเสถียรภาพผสมผสานการเพิ่มแรงเบรกและฟังก์ชัน ESP® ไว้ในหน่วยเดียว น้ำหนักและความซับซ้อนลดลง ทำให้รถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าไม่เพียงปลอดภัยขึ้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ โซลูชันการชาร์จที่เชื่อมต่อถึงกันของ บ๊อช เช่น แบตเตอรี่บนคลาวด์ และการชาร์จไฟที่สะดวกสบายยังรองรับผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าตลอดการเดินทาง ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถวางแผนเส้นทางผ่านจุดชาร์จต่างๆ ได้ โดยนำเสนอตัวเลือกพิกัดจุดชาร์จและการชำระเงินที่อัพเดตและแม่นยำสำหรับการใช้สถานีชาร์จสาธารณะ

convenience charging

แผนกอะไหล่ยนต์ เผยการเติบโตเชิงบวกที่โดดเด่น

ธุรกิจด้านดีเซลของ บ๊อช ประเทศไทย มีความแข็งแกร่งที่โดดเด่น เน้นย้ำความมุ่งมั่นให้ความสำคัญกับธุรกิจนี้

บริษัทฯ ยังจับตาการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคที่จำหน่ายออกเร็ว โดยเฉพาะที่ปัดน้ำฝนและแบตเตอรี่ โดยเน้นการตอบสนองต่อความต้องการของตลาด และกลยุทธ์การขยายฐานเจาะตลาดประเภทศูนย์ซ่อมบำรุงพาหนะ

นอกจากนี้ ความพยายามอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงเครือข่ายศูนย์บริการของ บ๊อช Bosch Car Service และ Bosch Module

สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งและการขยายโอกาสทางธุรกิจในตลาด บริษัทฯ รุดหน้าในการสร้างพันธมิตรเพื่อวางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์และเตรียมพร้อมรับการเติบโตและวิวัฒนาการของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ที่ส่งสัญญาณการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้า

เครื่องจักรอุตสาหกรรมสู่อนาคต: บ๊อช เร็กซ์รอธ ประเทศไทย ย่างก้าวที่เหนือความคาดหมายในปี พ.ศ. 2566

ถึงแม้จะมีความท้าทายจากภาวะทางเศรษฐกิจ บ๊อช เร็กซ์รอธ ประเทศไทย ประสบความสำเร็จในการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี พ.ศ. 2566 เหนือความคาดหมายและเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีไฮดรอลิกในกลุ่มหลักของประเทศไทย ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงความทุ่มเทอย่างแน่วแน่ของบุคลากร การทำงานร่วมกัน และความมุ่งมั่นของทีมงานในการส่งเสริมความร่วมมือทางอุตสาหกรรมอย่างเป็นรูปธรรม

บ๊อช เร็กซ์รอธ ประเทศไทย เตรียมเปิดศูนย์ศักยภาพระดับภูมิภาค (Regional Center of Competence - CoC) ในการซ่อมและบำรุงรักษามอเตอร์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย ต่อยอดบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย ศูนย์ศักยภาพระดับภูมิภาค ดังกล่าว มีเป้าหมายที่จะปรับปรุงศักยภาพในการดำเนินการตามความต้องการของลูกค้าทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาค ภายใต้การให้บริการที่ใช้เวลาน้อยลง

เทคโนโลยีพลังงานความร้อน - บ๊อช บรรลุเป้าหมายเติบโตอย่างเข้มแข็ง ขับเคลื่อน โซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เทคโนโลยีพลังงานความร้อนของบ๊อช กำลังก้าวไปอีกขั้นในการขับเคลื่อนการลดการปล่อยคาร์บอนและบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์สำหรับโรงงานที่ใช้ระบบความร้อนแบบไอน้ำ ในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ มุ่งสู่แนวปฏิบัติทางอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน บ๊อช ประสบความสำเร็จในการติดตั้งหม้อต้มน้ำไฟฟ้าทั้งในสิงคโปร์และฟิลิปปินส์ การติดตั้งเหล่านี้มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำจัดการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลและลดการปล่อยก๊าซจากการผลิตไอน้ำในภูมิภาคเหล่านี้ ให้การปล่อยคาร์บอนเทียบเท่าเป็นศูนย์ ภายใต้ขอบเขต 1 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บ๊อช ได้ลงนามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับกลุ่มซีพีเอฟ ความร่วมมือนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี สู่การบรรลุเป้าหมายอันแน่วแน่ในการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2593 แนวทางเชิงรุกของ บ๊อช ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการจัดหาโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบสนองความต้องการอันเร่งด่วนเพื่อบรรเทาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

ยกระดับระบบความปลอดภัยและระบบเสียง: นวัตกรรมจากบ๊อช กรุยทางสู่ความเป็นผู้นำ

ยุคสมัยแห่งอนาคตได้มาอยู่เบื้องหน้าแล้วกับ "AI" ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีวิดีโอ ผลิตภัณฑ์วิดีโอใหม่ทั้งหมดของบ๊อช ในปี พ.ศ. 2566 ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ด้านการเรียนรู้เชิงลึก เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในระบบคมนาคม เมือง อาคาร และอุตสาหกรรมการผลิต บริษัทฯ เพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์สูงสุดด้วยการผสมผสานองค์ประกอบที่รองรับอนาคตมากที่สุด พร้อมฟังก์ชัน Trusted Platform Module (TPM) เข้ากับผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีวิดีโอทั้งหมด

ผลิตภัณฑ์ระบบการสื่อสาร บ๊อช “Hear the Difference” ประสบความสำเร็จด้านยอดขายทำลายสถิติของกลุ่มผลิตภัณฑ์ลำโพงแบบพกพา ด้วยลำโพง EVERSE8 ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แบบใหม่มาพร้อมระบบเสียงและการควบคุมการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านบลูทูธ นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวโซลูชันเชื่อมต่อ IP แบบใหม่สำหรับระบบการประชุมและลำโพง IP Horn ออกสู่ตลาดอีกด้วย

เพิ่มศักยภาพให้กับผู้ที่ชื่นชอบงาน DIY และผู้ใช้งานมืออาชีพ: เครื่องมือไฟฟ้าบ๊อช เติบโตอย่างโดดเด่น

ในปี พ.ศ. 2566 บ๊อช เริ่มต้นการเดินทางครั้งสำคัญของนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ โดยเปิดตัวเครื่องมือไฟฟ้าใหม่กว่า 100 รายการสู่ตลาดประเทศไทย โดยเฉพาะเครื่องมือไฟฟ้าไร้สาย 18V

ซึ่งได้รับความนิยมจากแคมเปญส่งเสริมการขาย Promix ขณะเดียวกัน กลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์เสริมสำหรับผู้ใช้งานกลุ่มมืออาชีพมียอดขายเติบโตสูงขึ้นเช่นกัน แคมเปญส่งเสริมการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ตอกย้ำแบรนด์บ๊อช ซึ่งเป็น "ตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าจะไม่ผิดหวัง" เพื่อช่วยกระตุ้นการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์

บ๊อช ปรับปรุงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพช่องทางการขายที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ ในปี พ.ศ. 2566 ปริมาณยอดขายสินค้าออนไลน์ที่ร่วมมือกับพันธมิตรออนไลน์มียอดขายที่เพิ่มขึ้น เพิ่มการมองเห็นและกระตุ้นยอดขายผ่านกิจกรรมและโปรโมชั่น ด้วยกลยุทธ์ที่สอดประสานระหว่างแพลทฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านในการเลือกซื้อสินค้าและการปิดการขายระหว่างแพลทฟอร์มเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ บ๊อช ยังได้สำรวจช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ใหม่ๆ เช่น Grab Mart และ Allkon เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างของโลกยุคดิจิทัล

ยกระดับบ้าน เติมเต็มชีวิต: เครื่องใช้ไฟฟ้าบ๊อช เฉลิมฉลองการเติบโตของยอดขายและขยายกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง

เครื่องใช้ไฟฟ้าบ๊อช มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมากด้วยแคมเปญที่ประสบความสำเร็จอย่าง "Like a Bosch" (“แบบ บ๊อช บ๊อช”) และการขยายเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วประเทศ ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ส่งตรงถึงผู้บริโภค การนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจรพร้อมผู้ช่วยมืออาชีพ ที่แนะนำและสาธิตวิธีใช้งาน และจุดบริการส่งซ่อมผลิตภัณฑ์ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นทำให้ บ๊อช ส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจอย่างไร้รอยต่อให้กับลูกค้า

ความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน: แนวทางแบบองค์รวมของ บ๊อช ประเทศไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน

ด้วยความมุ่งมั่นต่อแนวทางความยั่งยืน บ๊อช ประเทศไทย มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในโครงการริเริ่มเพื่อส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเข้าเป็นสมาชิก สมาคมเครือข่าย

โกลบอล คอมแพ็ค แห่งประเทศไทย United Nations Global Compact Thailand (UNGC Thailand) ในปี พ.ศ. 2566 และได้เข้าร่วมโครงการ UN SDG Ambition Accelerator Program นอกจากนี้ บ๊อช ประเทศไทย ยังคงสานต่อเจตนารมย์ผ่านแคมเปญเพื่อความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงงานวิ่งเพื่อการกุศล และการเฉลิมฉลอง บ๊อช ครบรอบ 100 ปี ในปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากภาคประชาชน โดยมีนักวิ่งเข้าร่วมกว่า 1,300 คน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ส่งเสริมความตระหนักรู้ในเรื่องอากาศสะอาด ด้วยการร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลัก เช่น สภาลมหายใจเชียงใหม่ สนับสนุนความคิดริเริ่มในท้องถิ่น เช่น งานวิ่งเพื่อลมหายใจ "Beat the Haze Run" และสนับสนุนการประชุม PM2.5 แห่งชาติครั้งแรก ความพยายามเหล่านี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ บ๊อช ประเทศไทย ในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และการมีส่วนร่วมกับชุมชน

กลุ่มบ๊อช: แนวโน้มปี พ.ศ. 2567 และแนวทางกลยุทธ์

กลุ่มบ๊อช เพิ่มยอดขายและรายได้ในปี พ.ศ. 2566 และประสบความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์การเติบโตท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่ท้าทาย ดร.สเตฟาน ฮาร์ตุง ประธานคณะกรรมการบริหารของ Robert Bosch GmbH กล่าวว่า “ผลประกอบการในปี พ.ศ. 2566

เราบรรลุเป้าหมายทางการเงินและเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งทางการตลาดของเราในธุรกิจหลายด้าน ตั้งแต่เซมิคอนดักเตอร์ไปจนถึงระบบอาคารแบบครบวงจร” บริษัทเพิ่มยอดขายร้อยละ 3.8 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วอยู่ที่ 91.6 พันล้านยูโร แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจและตลาดจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีจากการดำเนินงานอยู่ที่ร้อยละ 5.3 สูงกว่าปีก่อนหน้า ร้อยละ 1 สูงกว่าที่คาดการณ์แต่ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายอย่างน้อยร้อยละ 7 เพื่อรองรับแผนในระยะยาว บ๊อช ต้องการบรรลุเป้าหมายนี้ภายในปี พ.ศ. 2569 ในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2567 ยอดขายลดลงมากกว่า ร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบปีต่อปี หลังจากปรับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าการเพิ่มอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีจากการดำเนินงานจะเป็นเรื่องยากเมื่อเทียบกับปีก่อน นอกเหนือจากสภาพแวดล้อมของตลาดที่ซบเซาและการลงทุนล่วงหน้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ในด้านความสำคัญเชิงกลยุทธ์แล้ว การปรับโครงสร้างใหม่และการปรับปรุงพัฒนากระบวนการจะส่งผลกระทบบ้างในระยะแรก และผลเชิงบวกจะปรากฏขึ้นหลังจากนั้น แม้ว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมยังคงความต้องการสินค้าในตลาด บ๊อช ตั้งเป้าที่จะติดอันดับผู้จัดจำหน่ายสามอันดับแรกในตลาดหลัก ในทุกภูมิภาคของโลก “เราให้ความสำคัญกับนวัตกรรม ความร่วมมือ และการเข้าซื้อกิจการ เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะยังคงเติบโต ในขณะที่อุตสาหกรรมของเราปรับตัวในช่วงเปลี่ยนผ่าน ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ท้าทาย” ฮาร์ตุง กล่าว

ตัวอย่างเช่น ในธุรกิจหลักด้านยานยนต์ บ๊อช กำลังขับเคลื่อนธุรกิจเชิงกลยุทธ์อย่างเป็นระบบเพื่อการเติบโตในอนาคต แค่ปีนี้เพียงปีเดียว บริษัทกำลังเปิดตัวโครงการผลิตที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 30 โครงการ ในด้านการเติบโตของธุรกิจไฮโดรเจน บ๊อช คาดการณ์ธุรกิจด้วยเป้าหมายที่ว่า ภายในปี พ.ศ. 2573 ยอดขายจากเทคโนโลยีไฮโดรเจนอาจสูงถึง 5 พันล้านยูโร ในโอกาสนี้ บ๊อช ยังใช้ประโยชน์จากการเติบโตด้านเทคโนโลยีพลังงานความร้อนอย่างมีแบบแผน แม้ว่าตลาดเครื่องปั๊มความร้อนจะซบเซาทั่วยุโรปในปี พ.ศ. 2566 แต่ บ๊อช ก็สามารถขยายธุรกิจได้เกือบร้อยละ 50 ในปีต่อๆ ไป บ๊อช จะยังคงเติบโตเร็วกว่าตลาดในส่วนนี้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคอาจดีขึ้นเล็กน้อยหลังการชะลอตัวของผู้บริโภคในระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา บ๊อช คาดหวังว่าธุรกิจของตนเองจะมีเสถียรภาพสืบเนื่องจากการลงทุนในนวัตกรรมและการขยายตัวทางธุรกิจในระดับสากล กล่าวโดยสรุป การดำเนินการรับมือการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศยังคงมีบทบาทสำคัญในบ๊อช ในมุมมองของฮาร์ตุง สิ่งนี้มอบโอกาสที่ดีสำหรับการเติบโต ถึงแม้ว่าธุรกิจ เช่น ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าจะไม่พัฒนารวดเร็วอย่างที่คาดไว้ก็ตาม ถึงกระนั้น บ๊อช ยังคงลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีด้านความเป็นกลางทางคาร์บอนสำหรับอนาคต เพื่อที่จะกำหนดทิศทางการเปลี่ยนผ่ายนี้จากฝ่ายบริหารระดับสูง “มีแรงกดดันที่ต้องลดเงินอุดหนุนสำหรับเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่การดำเนินการรับมือการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศยังจำเป็นต้องมีการลงทุนอย่างยั่งยืน ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และพวกเราทุกคน” ฮาร์ตุง กล่าว

ข้อมูลประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม:

บริษัท โรเบิร์ต บ๊อช จำกัด

อินทิรา พาร์ค

ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรประจำประเทศไทย

โทรศัพท์
อีเมล

คำถามทั่วไปเกี่ยวกับบ๊อช

ข่าวสารเพิ่มเติม